วันพุธที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ระบบสารสนเทศ

การรู้สารสนเทศ (Information Literacy)




ความหมาย

การรู้สารสนเทศ (Information literacy) หมายถึง ความรู้ความสามารถและทักษะของบุคคลในการเข้าถึงสารสนเทศ ประเมินสารสนเทศที่ค้นมาได้ และใช้สารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพทุกรูปแบบ ผู้รู้สารสนเทศจะต้องมีทักษะในด้านต่างๆ เช่น ทักษะการคิดวิเคราะห์และ / หรือ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ ทักษะการใช้ภาษา ทักษะการใช้ห้องสมุด ทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ เป็นต้น


ความสำคัญ

การรู้สารสนเทศมีความสำคัญต่อความสำเร็จของบุคคลในด้านต่างๆ ดังนี้

1. การศึกษา การรู้สารสนเทศเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการศึกษาของบุคคลทุกระดับ ทั้งการศึกษาในระบบโรงเรียน การศึกษานอกระบบโรงเรียน การศึกษาตามอัธยาศัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาในปัจจุบันตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มีการปฏิรูปการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ดังนั้นบทบาทของผู้สอนจึงเปลี่ยนเป็นผู้ให้คำแนะนำชี้แนะโดยอาศัยทรัพยากรเป็นพื้นฐานสำคัญ

2. การดำรงชีวิตประจำวัน การรู้สารสนเทศเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการดำรงชีวิตประจำวัน เพราะผู้รู้สารสนเทศจะเป็นผู้ที่สามารถวิเคราะห์ประเมินและใช้สารสนเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ตนเองเมื่อต้องการตัดสินใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ถ้าต้องการซื้อเครื่องปรับอากาศของบริษัทใดบริษัทหนึ่งก็ต้องพิจารณามาตรฐาน คุณภาพ บริการหลังการขาย และเปรียบเทียบราคา แล้วจึงค่อยตัดสินใจ เป็นต้น

3. การประกอบอาชีพ การรู้สารสนเทศมีความสำคัญต่อการประกอบอาชีพของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เพราะบุคคลนั้นสามารถแสวงหาสารสนเทศที่มีความจำเป็นต่อการประกอบอาชีพของตนเองได้ เช่น เกษตรกร เมื่อประสบปัญหาโรคระบาดกับพืชผลทางการเกษตรของตน ก็สามารถหาตัวยาหรือสารเคมีเพื่อมากำจัดโรคระบาด ดังกล่าวได้ เป็นต้น

4. สังคม เศรษฐกิจ และการเมือง การรู้สารสนเทศเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะสังคมในยุคสารสนเทศ (Information Age) บุคคลจำเป็นต้องรู้สารสนเทศเพื่อปรับตนเองให้เข้ากับสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง เช่น การอยู่ร่วมกันในสังคม การบริหารจัดการ การดำเนินธุรกิจและการแข่งขัน การบริหารบ้านเมืองของผู้นำประเทศ เป็นต้น อาจกล่าวได้ว่าผู้รู้สารสนเทศ คือ ผู้ที่มีอำนาจสามารถาชี้วัดความสามารถขององค์กรหรือประเทศชาติได้ ดังนั้นประชากรที่เป็นผู้รู้สารสนเทศจึงถือว่าเป็นทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุดของประเทศ

วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

แหล่งสารสนเทศ

แหล่งสารสนเทศ (information resources) หมายถึง แหล่งที่เกิด ผลิต หรือสถานที่ที่รวบรวมสารสนเทศในทุกรูปแบบไว้ เป็นแหล่งจัดเก็บ และบริการทรัพยากรสารสนเทศ ในรูปแบบต่างๆ อย่างเป็นระบบ เป็นการอนุรักษ์ทรัพย์สินทางปัญญา ไว้เผยแพร่แก่คนในยุคปัจจุบัน และคนในยุคหลัง และนำมาใช้ประโยชน์ แหล่งสารสนเทศที่สำคัญๆ ได้แก่ แหล่งสารสนเทศบุคคล แหล่งสารสนเทศสถาบัน หรือสถาบันบริการสารสนเทศ แหล่งสารสนเทศสื่อมวลชน และแหล่งสารสนเทศอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้บริการสามารถเลือกใช ้ให้เหมาะสมกับความต้องการ

การเลือกใช้แหล่งสารสนเทศ
จากแหล่งสารสนเทศประเภทต่างๆ เมื่อมีความต้องการสารสนเทศเกิดขึ้น ผู้ใช้สามารถเลือกใช้แหล่งสารสนเทศได้อย่างเหมาะสมและเป็นประโยชน์ โดยมีหลักในการพิจารณา (มหาวิทยาลัยขอนแก่น. ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์, 2547, หน้า 25-26) ดังนี้
1. มีความสะดวกในการเข้าใช้ เช่น อินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งสารสนเทศที่เข้าใช้ได้สะดวก รวดเร็ว โดยไม่จำกัดเวลาและสถานที่ เพียงแต่ผู้ใช้มีเครื่องคอมพิวเตอร์และใช้อินเทอร์เน็ตเป็น ส่วนห้องสมุดเป็นแหล่งสารสนเทศที่มีความสะดวกในการเข้าใช้ จัดตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นศูนย์กลางและเปิดให้บริการตามเวลาที่กำหนด
2. มีความน่าเชื่อถือ ห้องสมุดเป็นแหล่งสารสนเทศที่มีความน่าเชื่อถือมากกว่าแหล่งบุคคลและอินเทอร์เน็ต เนื่องจากมีวิธีการคัดเลือก จัดหา จัดเก็บ ทรัพยากรสารสนเทศอย่างเป็นระบบ และมุ่งเน้นให้บริการสารสนเทศ ที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้อย่างสะดวก รวดเร็ว ทำให้ผู้ใช้ ประหยัดเวลาในการค้นหาสารสนเทศ ขณะที่อินเทอร์เน็ตมีความน่าเชื่อถือน้อยกว่าห้องสมุด เนื่องจากสารสนเทศในอินเทอร์เน็ต ไม่มีหน่วยงานใดเป็นเจ้าของทำหน้าที่กลั่นกรองเนื้อหา ส่วนแหล่งสารสนเทศบุคคล ควรคำนึงถึงผู้ที่มีชื่อเสียง คุณวุฒิ หรือประสบการณ์ที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป
3. มีความสอดคล้องกับลักษณะของเนื้อหาสารสนเทศที่ต้องการ เช่น ถ้าต้องการความรู้ เฉพาะสาขาวิชาควรเลือกใช้ ห้องสมุดคณะ ห้องสมุดเฉพาะ หรือศูนย์สารสนเทศ หรือถ้าต้องการความรู้หลากหลายสาขาวิชา ควรเลือกใช้ห้องสมุดมหาวิทยาลัย หรือถ้าเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหาอ่านไม่ได้ จากทรัพยากรสารสนเทศประเภทต่างๆ อาจต้องใช้แหล่งบุคคลที่เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น
4. ความทันสมัยของเนื้อหาที่นำเสนอ สื่อมวลชน เป็นแหล่งที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ที่เป็นปัจจุบัน ดังนั้น ข้อมูลข่าวสาร ที่เผยแพร่จึงล้าสมัยเร็ว เช่น ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน ตลาดหุ้น อาจมีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน ดังนั้นจำเป็นต้องพิจารณา วัน เดือน ปี ของการผลิต หรือเผยแพร่ข้อมูลของแหล่งสื่อ

สถาบันบริการสารสนเทศ
จากความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิชาการและเทคโนโลยี ทำให้มีการผลิตสารสนเทศออกมาเผยแพร่อย่างมากและรวดเร็ว การที่สังคมมีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้นทำให้มนุษย์มีความต้องการสารสนเทศมากขึ้นเป็นทวีคูณเช่นเดียวกัน และเนื่องจากมนุษย์แต่ละคน ไม่อาจรวบรวมหรือจัดเก็บสารสนเทศทุกชิ้นที่ผลิตขึ้นมาได้ทั้งหมด แต่ทว่ายังมีความต้องการในการใช้ ดังนั้น จำเป็นต้องมีผู้ที่ทำหน้าที่จัดหา รวบรวม จัดเก็บ และให้บริการสารสนเทศกับมนุษย์แต่ละคน เพื่อสนองความต้องการด้านการใช้สารสนเทศ จึงทำให้เกิดสถาบันบริการสารสนเทศขึ้น
สถาบันบริการสารสนเทศ มีวัตถุประสงค์หลัก คือ ให้บริการสารสนเทศตามความต้องการของผู้ใช้ แต่เนื่องจากวิวัฒนาการของสังคม การพัฒนาของศาสตร์ต่างๆ ความแตกต่างของสารสนเทศ ผู้ใช้ และความต้องการของผู้ใช้ จึงเกิดสถาบันบริการสารสนเทศหลากหลายรูปแบบ เช่น ห้องสมุด ศูนย์สารสนเทศ ศูนย์ข้อมูล ศูนย์ประมวลและแจกจ่ายสารสนเทศ ศูนย์แนะแหล่งสารสนเทศ หน่วยงานจดหมายเหตุ สถาบันบริการสารสนเทศเชิงพาณิชย์ เป็นต้น ซึ่งสถาบันบริการสารสนเทศรูปแบบต่างๆ นี้ มีวัตถุประสงค์หลักเหมือนกัน แต่จะมีหน้าที่แตกต่างกันอยู่บ้างในด้านสาขาวิชาที่ให้บริการ ประเภททรัพยากรสารสนเทศ และประเภทของการให้บริการ ซึ่งจะมีความสัมพันธ์กับประเภทของ



*******************************************

วันพุธที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ความสำคัญของสารสนเทศต่อสังคม

ความสำคัญของสารสนเทศต่อสังคม



1. ก่อให้เกิดการศึกษาซึ่งจำเป็นต่อการพัฒนาสังคม สังคมใดที่ได้รับการศึกษารู้หนังสือ และสามารถเข้าถึงสารสนเทศ สังคมนั้นจะสามารถพัฒนาได้เร็ว
2. รักษาไว้และถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรม สารสนเทศจะช่วยอนุรักษ์พัฒนาและ
ถ่ายทอดความรู้ให้แก่คนรุ่นใหม่ต่อไปได้ สามารถเรียนรู้ความเข้าใจ ในวัฒนธรรม
ของคนที่อยู่ต่างสังคมได้ เกิดการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม มีความเข้าใจระหว่างกัน ทำให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข
3. เสริมสร้างความรู้ ความสามารถทางด้านเทคโนโลยี เศรษฐศาสตร์ ธุรกิจการพาณิชย์ และความรู้อื่นๆ ที่เป็นพื้นฐานจำเป็นต่อการพัฒนาสังคม

ระบบทศนิยมดิวอี้

ระบบทศนิยมดิวอี้ (Deway Decimal Classification)

ระบบทศนิยมดิวอี้ เรียกย่อๆ ว่า D.C. หรือ D.D.C เป็นระบบการจัดหมวดหมู่หนังสือในห้องสมุดที่นิยมระบบหนึ่ง คิดค้นขึ้นโดยชาวอเมริกัน เมลวิด ดิวอี้ ในขณะที่เขากำลังเป็นผู้ช่วยบรรณรักษ์อยู่ที่วิทยาลัยแอมเฮอร์ส (Amherst College) การจัดหมวดหมู่หนังสือตามระบบทศนิยมของดิวอี้ แบ่งหนังสือออกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ จากหมวดหมู่ใหญ่ไปตามหมวดหมู่ย่อย ต่างๆ

หมวดใหญ่

การแบ่งหมวดหมู่หนังสือระดับที่ 1 แบ่งตามประเภทของสรรพวิชาใหญ่ๆ 10 หมวด โดยใช้ตัวเลขหลักร้อยเป็นตัวบ่งชี้
000 เบ็ตเตล็ดหรือความรู้ทั่วไป (Generalities)
100 ปรัชญา (Philosophy)
200 ศาสนา (Religion)
300 สังคมศาสตร์ (Social Sciences)
400 ภาษาศาสตร์ (Language)
500 วิทยาศาสตร์ (Science)
600 วิทยาศาตร์ประยุกต์หรือเทคโนโลยี (Technology)
700 ศิลปกรรมและการบันเทิง (Arts and recreation)
800 วรรณคดี (Literature)
900 ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ (History and geography)

หมวดย่อย
การแบ่งหมวดหมู่หนังสือระดับที่ 2 แบ่งออกเป็นอีก 10 หมวดย่อย โดยใช้ตัวเลขหลักสิบเป็นตัวบ่งชี้ รวมเป็น 100 หมวดย่อย
000 คอมพิวเตอร์ ความรู้ทั่วไป
010 บรรณานุกรม แคตตาล็อก
020 บรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์
030 หนังสือรวบรวมความรู้ทั่วไป สารานุกรม
040 ยังไม่กำหนดใช้
050 สิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง วารสาร และดรรชนี
060 องค์การต่าง ๆ พิพิธภัณฑวิทยา
070 วารสารศาสตร์ การพิมพ์
080 ชุมนุมนิพนธ์
090 ต้นฉบับตัวเขียน หนังสือหายาก

------------------------------------------------------------------------------------

100 ปรัชญา
110 อภิปรัชญา
120 ญาณวิทยา ความเป็นเหตุผล ความเป็นมนุษย์
130 จิตวิทยานามธรรม
140 แนวความคิดปรัชญาเฉพาะกลุ่ม
150 จิตวิทยา
160 ตรรกศาสตร์ ตรรกวิทยา
170 จริยศาสตร์ ศีลธรรม
180 ปรัชญาสมัยโบราณ สมัยกลาง ตะวันออก
190 ปรัชญาตะวันตกสมัยใหม่

----------------------------------------------------------------------------------------

200 ศาสนา
210 ศาสนาธรรมชาติ
220 ไบเบิล
230 เทววิทยาตามแนวคริสต์ศาสนา
240 ศีลธรรมชาวคริสต์ การอุทิศเพื่อศาสนา
250 คริสต์ศาสนาในท้องถิ่นและระเบียบแบบแผนปฏิบัติ
260 สังคมชาวคริสต์ เทววิทยาทางศาสนา
270 ประวัติคริสต์ศาสนา
280 นิกายต่างๆ ในคริสต์ศาสนา
290 ศาสนาเปรียบเทียบและศาสนาอื่นๆ

-----------------------------------------------------------------------------------------

300 สังคมศาสตร์
310 สถิติศาสตร์
320 รัฐศาสตร์ การเมือง การปกครอง
330 เศรษฐศาสตร์
340 กฏหมาย
350 รัฐประศาสนศาสตร์ การบริหารรัฐกิจ กองทัพ
360 ปัญหาสังคม การบริหารสังคม สมาคม
370 การศึกษา
380 การพาณิชย์ การสื่อสาร การขนส่ง
390 ประเพณี ขนบธรรมเนียม คติชนวิทยา

-------------------------------------------------------------------------------------------

400 ภาษา
410 ภาษาศาสตร์
420 ภาษาอังกฤษ
430 ภาษาเยอรมัน
440 ภาษาฝรั่งเศส ภาษาโรมานซ์
450 ภาษาอิตาลี ภาษาโรมัน
460 ภาษาสเปน ภาษาโปรตุเกส
470 ภาษาละติน
480 ภาษากรีก
490 ภาษาอื่นๆ

------------------------------------------------------------------------------------------

500 วิทยาศาตร์
510 คณิตศาสตร์
520 ดาราศาสตร์
530 ฟิสิกส์
540 เคมี
550 วิทยาศาสตร์โลก
560 บรรพชีวินวิทยา
570 ชีววิทยา
580 พฤกษศาสตร์
590 สัตววิทยา

-------------------------------------------------------------------------------------

600 วิทยาศาสตร์ประยุกต์ เทคโนโลยี
610 แพทยศาสตร์
620 วิศวกรรมศาสตร์
630 เกษตรศาสตร์
640 คหกรรมศาสตร์ ชีวิตครอบครัว
650 การจัดการธุรกิจ
660 วิศวกรรมเคมี
670 โรงงานอุตสาหกรรม
680 สินค้าที่ผลิตจากเครื่องจักร
690 การก่อสร้าง

----------------------------------------------------------------------------------------

700 ศิลปกรรม การบันเทิง
710 ภูมิสภาปัตย์
720 สถาปัตยกรรม
730 ประติมากรรม
740 การวาดเขียน มัณฑนศิลป์
750 จิตรกรรม ภาพเขียน
760 ศิลปะการพิมพ์ ศิลปะกราฟิก
770 การถ่ายรูป ภาพถ่าย
780 ดนตรี
790 การบันเทิง นันทนาการ กีฬา

----------------------------------------------------------------------------------------

800 วรรณกรรม วรรณคดี
810 วรรณคดีอเมริกันในภาษาอังกฤษ
820 วรรณคดีภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษโบราณ
830 วรรณคดีภาษาเยอรมัน
840 วรรณคดีภาษาฝรั่งเศส ภาษาโรมานซ์
850 วรรณคดีภาษาอิตาลี ภาษาโรมัน
860 วรรณคดีภษาสเปน ภาษาโปรตุเกส
870 วรรณคดีภาษาละติน
880 วรรณคดีภาษากรีก
890 วรรณคดีภาษาอื่นๆ

---------------------------------------------------------------------------------------

900 ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์
910 ภูมิศาสตร์ การท่องเที่ยว
920 ชีวประวัติ เครื่องราชอิสริยาภรณ์
930 ประวัติศาสตร์ยุคโบราณ
940 ประวัติศาสตร์ยุโรป โลกตะวันตก
950 ประวัติศาสตร์เอเชีย โลกตะวันออก
960 ประวัติศาสตร์แอฟริกา
970 ประวัติศาสตร์อเมริกาเหนือ
980 ประวัติศาสตร์อเมริกาใต้
990 ประวัติศาสตร์ส่วนอื่นๆ ของโลก

วันพุธที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2553

:: My Blogger ::










Welcome to my blogger.
please enjoy with my blogger.
nice to meet you guys!!